ศาลปกครองยกฟ้องคดียิ่งลักษณ์บริหารน้ำผิดพลาด

ศาลปกครองยกฟ้องชาว กทม. ให้ ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ รับผิดชอบบริหารน้ำพลาด ชี้ ปริมาณน้ำปี 54 มากสุดในรอบหลายปี

ศาลปกครองกลางพิพากษายกฟ้อง ในคดี น.ส.จรุงทิพย์ หล่อรุ่งโรจน์ กับพวกรวม 10 ราย ซึ่งเป็นประชาชนที่พักอาศัยในกรุงเทพมหานคร และได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเมื่อปี พ.ศ. 2554 ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 10 ราย จากกรณีที่ผู้ถูกฟ้องทั้ง 10 ได้บริหารจัดการน้ำผิดพลาด ทำให้มวลน้ำจำนวนมหาศาลได้ไหลสู่พื้นที่ต่ำออกสู่ทะเล เป็นเหตุให้น้ำไม่ไหลไปตามทิศทางตามธรรมชาติทำให้น้ำท่วมขังบริเวณกรุงเทพมหานคร ทั้งยังส่งกลิ่นเน่าเหม็นและทำให้ทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย จึงขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหาย รวมเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท และให้จัดทำแผนป้องกันน้ำท่วม

ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในช่วงกลางถึงปลายปี 54 ประเทศไทยเกิดพายุโซนร้อนและมรสุมจำนวนหลายลูก จึงทำให้มีปริมาณน้ำสะสมในเขื่อนต่าง ๆ มากที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งผู้ถูกฟ้องมีความพยายามในการระบายน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทางวิชาการแล้ว แต่การปล่อยน้ำออกจากเขื่อนก็จำเป็น เพื่อไม่ให้น้ำเกินความจุของเขื่อน แต่ด้วยปริมาณน้ำฝนจำนวนมากในพื้นที่ใต้เขื่อน ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้น ขณะเดียวกันระหว่างนั้นประตูระบายน้ำบางโฉมศรีและแห่งอื่น ๆ ได้พังทลายลง จึงทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปในทางที่กำหนดได้ แม้ผู้ถูกร้องจะป้องกันพื้นที่ กทม. ด้วยการเสริมคันกันน้ำ วางแนวกระสอบทรายต่าง ๆ และได้แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมตัวไว้ อย่างเต็มความสามารถ รวมถึงฟื้นฟูความเสียหายตามกฎหมายแล้ว แต่ด้วยปริมาณน้ำก็ทำให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่บ้านพักของผู้ฟ้องทั้ง 10 จึงเห็นได้ว่า การกระทำของผู้ร้องไม่ได้เป็นการกระทำโดยไม่ชอบ และละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้ผู้ฟ้องได้รับความเสียหาย

นอกจากนี้ การที่ผู้ถูกฟ้องวางแนวป้องกันพื้นที่ เศรษฐกิจชั้นในของ กทม. ก็ไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติเพราะถือว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์กลางการบริหารประเทศ หากปล่อยให้น้ำท่วมก็จะมีผลกระทบในวงกว้าง จึงพิพากษายกฟ้อง