ชัยชนะ2นัด..มันคือจุดเริ่มต้น!!

ชัยชนะ2นัด..มันคือจุดเริ่มต้น!!

ชัยชนะ2นัด..มันคือจุดเริ่มต้น!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชั่วโมงนี้..ถ้าจะไม่พูดถึงทีมชาติไทย(ชุดปรีโอลิมปิค)ที่โชว์ผลงานได้อย่างเยี่ยมยอด ภายใต้การคุมทัพของอดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกา "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เห็นคงจะไม่ได้จริงๆ

กับศึกฟุตบอล “เอเอฟซี ยู-23 แชมป์เปี้ยนชิพ 2016” ที่จะใช้นักเตะอายุไม่เกิน 22 ปี โดยทีมไทยอยู่ในกลุ่มจี ร่วมกับ เกาหลีเหนือ, กัมพูชา และฟิลิปปินส์ และน่าจะเป็น "โสมแดง" ที่น่าจะแข็งแกร่งกว่าเรา (ตามคาดการณ์) แต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้กับลูกกลมๆ

โดยจะเอาทีมแชมป์ทั้ง 10 กลุ่มเข้ารอบทันที และเอาอันดับ 2 ที่ดีที่สุดอีก 5 ทีมของทุกกลุ่ม เป็น 15 ทีม รวมกับ กาตาร์ เจ้าภาพอีก 1 ทีม เป็น 16 ทีม เพื่อเล่นรอบสุดท้ายเอเชียคัดเหลือแค่ 3 ทีมไปแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล



นับตั้งแต่ ''ซิโก้'' เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ก้าวขึ้นมาเป็นหัวเรือของทัพ ''ช้างศึก'' ทีมชาติไทย ตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่า "ขุนพลแดนสยาม" เล่นเป็นรูปเป็นร่างอย่างเห็นได้ชัด แม้กระทั่งลูกเด็กเล็กแดงยังมองออก!!

ด้วยรูปแบบการเล่น ที่เน้นส่งกันแบบเท้าสู่เท้ามีความต่อเนื่อง ไม่เสียบอลง่ายแถมมีเกมรุกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบุกจากด้านข้าง รวมถึงการเจาะตรงกลางและการยิงประตูจากแถวสอง

และที่สำคัญเรื่องพละกำลังบวกหัวใจที่แข็งแกร่งพร้อมความเข้าใจกันของนักเตะ นี่คือจุดเด่นที่แสดงให้เห็นจาก 2 นัดที่ผ่านมา

อย่างเกมแรกที่เจอกับกัมพูชา เรามาพลาดเสียประตูในครึ่งแรกจากลูกฟรีคิก อันนี้ก็ต้องยอมรับว่าเขายิงได้ดีจริงๆ หลังจากนั้นซิครับ เราเล่นได้ดีและครองบอลมากกว่า เปิดเกมบุกอย่างหนักใส่ทุกรูปแบบ



แน่นอนครับ กัมพูชาเขาพอใจแล้วประตูที่นำอยู่ ทำให้กลับมาเน้นเกมรับอย่างเดียว  แต่แล้วความมุ่งมั่นและหัวจิตหัวใจของนักเตะที่ไม่เคยยอมแพ้จนวินาทีสุดท้าย ก็ทำให้แฟนบอลชาวไทยชื่นใจเหมือนเช่นเคย ด้วยการกลับมาพลิกชนะได้สำเร็จ

ส่วนนัดสองผมมีความเชื่อลึกๆ เลยว่าเราจะชนะฟิลิปปินส์ได้อย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่ากี่ลูกเท่านั้น (และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ)

ชัยชนะเหนือแข้ง "กาตาล็อก" 5-1 แบบสะใจพระเดชพระคุณ เป็นอะไรที่แฟนบอล บอกเป็นเสียงเดียวว่า นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เห็นทีมชาติไทยเราเล่นด้วยฟอร์มแบบนี้



นักเตะทุกคนทราบดีว่าเราต้องผ่านตรงนี้ไปให้ได้ เพราะเป้าหมายสำคัญคือการเอาชนะ"โสมแดง"ในนัดต่อไป มันทำให้ขุนพลแดนสยามเล่นกันแบบถวายหัวอย่างที่เห็น

"ส่วนจุดเด่นของเกาหลีเหนือในชุดนี้ที่ผมเห็น คือความสูงใหญ่ของร่างกายบวกกับความแข็งแกร่ง ซึ่งมักจะทำประตูได้หลายต่อหลายครั้งโดยเฉพาะในกรอบโทษของคู่แข่ง"

ใช่ครับ! ผมกำลังจะบอกว่า 2 นัดที่ผ่านมา "มันเป็นแค่จุดเริ่มต้น" เท่านั้น และหากเราเอาชนะเกาหลีเหนือได้ นี่แหละครับมันคืน "กำไร"

ส่งผลให้การไปเล่นรอบต่อไปที่ กาตาร์  ในฐานะแชมป์กลุ่ม..เชื่อเหลือเกินว่าแข้งหนุ่มเมืองสยาม..จะไม่กลัวใครหน้านั้นอย่างแน่นอนและอาจจะต้องลุ้นกันยาวๆ เลยทีเดียว

ส่วนผลเสมอจะได้ 7 แต้มก็ยังโอเค กับการติด 1 ใน 5 เป็นทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สุดจากทั้งหมด 10 กลุ่ม ส่วนแพ้ผมจะไม่พูดถึง "เพราะมันไม่เป็นสิริมงคล" และมันจะไม่เกิดขึ้นใช่ไหม "พี่โก้"...



สุดท้ายนี้ ก็ต้องฝากแฟนบอลชาวไทยติดตามลุ้นและส่งกำลังใจไปเชียร์ทัพ "ช้างศึกน้อย" นัดสุดท้ายที่พบกับ เกาหลีเหนือ ในวันที่ 31 มี.ค นี้

หรือถ้าจะให้ดีไปเชียร์ที่สนามราชมังฯ ให้สนามแตกกันไปเลย..ยิ่งมากเท่าไรนักเตะก็จะมีความฮึกเหิมมากขึ้นเป็นทวีคูณ



เรื่องโดย : มิดไนท์



โปรแกรมนัดสุดท้าย

วันอังคารที่ 31 มีนาคม  ไทย พบ เกาหลีเหนือ  เวลา 19.00 น./ ถ่ายทอดสดช่อง ไทยรัฐทีวี และ Siamsport Live ทรูวิชั่นส์ ช่อง 695

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook