หงส์จะไม่เฮง และโชคดี..

หงส์จะไม่เฮง และโชคดี..

หงส์จะไม่เฮง และโชคดี..
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พาดหัว “ฮอตสกอร์” ฉบับเมื่อวานนี้ระบุว่า “หงส์สุดเฮง” แบบโดนใจ และอยากกดไลค์ให้ 1,000 ครั้งทั้งที่ผมเป็นแฟนลิเวอร์พูล

เชื่อแน่ว่า “เดอะ ค็อป” ทั่วโลกน่าจะแอบเห็นด้วย และไม่แฮปปี้นักกับผลงาน และผลการแข่งขันของทีมรักในช่วงเวลานี้

ครับ หากไม่จั่วหัวว่า “หงส์สุดเฮง” ก็คงต้องเป็น “หงส์โชคดี” เหมือนสื่อต่างชาติที่ส่วนใหญ่เล่นคำ “Liverpool lucky (to win)” อะไรประมาณนั้น

ริชาร์ด ดันน์ ยิงประตูตัวเอง จุดเริ่มต้นความเฮง

ตรงข้ามทีมที่ “โชคร้าย” ก็หนีไม่พ้น ควีนส์ปาร์ค ซึ่งนักเตะทำเข้าประตูตัวเอง 2 เม็ดไม่นับ “รูปเกม” ที่ไม่เป็นรองตลอด 90 นาที

ดังนั้น อันดับ 5 บนตารางจึงดู “หล่อเว่อร์ ๆ” หลังผ่านมา 8 นัดแล้วเก็บได้ 13 คะแนน

อลัน เชียเรอร์ คอมเมนเตเตอร์รายการ “Match of the Day2” หรือที่ย่อว่า “MOTD2” แสดงความเห็นอย่างน่าสนใจสรุปได้ประมาณนี้ครับ:

เกมรับ ขาด “ผู้นำ” และซีซั่นก่อนว่าแย่แล้ว ปีนี้ “แย่กว่า” โดยเดยัน ลอฟเรน ดาวเตะโครแอต ค่าหัว 20 ล้านปอนด์ ไม่สามารถ “ออกสตาร์ต” ได้ซะที

เช่นเดียวกัน กองหน้า มาริโอ บาโลเตลลี่ ก็เครื่องไม่ติดเสียที ยิงจ่อ ๆ ก็ไม่เข้าในเกมนี้ และเตะพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 6 นัดกับหงส์แดง ยังทำไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว 1 เม็ดที่ทำได้ก็มาจาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับลูโดโกเร็ตส์

"เห้ย โอ้ เอ็งทำได้ไงฟระ? ยิงเข้ายังง่ายกว่านะลูกนั้น!"

ที่น่าสนใจ คือ “สถิติ” โอกาสทำประตูของ “ซูเปอร์มาริโอ” สูงถึง 30 ครั้งเป็นรองเพียงแค่ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ (36 ครั้ง) และกราเซียโน่ เปลเล่ (32) เท่านั้น

แต่ กุน ยิงแล้ว 9 ประตู ขณะที่เปลเล่ ซัดแล้ว 6 เม็ดแถมยังถูกเรียกไปติดทีมชาติอิตาลี แซงหน้าบาโลเตลลี่ อีกต่างหาก

เชียเรอร์ แนะนำว่า หากเป็นตัวเค้าในฐานะกองหน้าแล้วเกิดปัญหา “ปืนฝืด” สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ พยายาม พยายาม และยิ่งพยายาม

แต่บาโลเตลลี่ นอกจากจะ “ไม่พยายาม” แล้ว หัวหอกจอมเกรียนยังแสดงความ “ไม่ใส่ใจ” อีกด้วย

เป็น 3 แต้มที่ทุลักทุเลที่สุด

ประเด็นนี้จึงเหลือเพียงแค่ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะ “ให้โอกาส” ดาวเตะ 16 ล้านปอนด์คนนี้อีกนานแค่ไหน!?

เพราะตอนนี้ในแนวรุกต้องใช้คำว่า “disjointed” หรือไม่ประติดประต่อ เพราะการยืนตำแหน่ง, ความพยายามของบาโลเตลลี่ มีไม่มากพอ

ดังนั้นในเวลาที่ทีมเสีย หลุยส์ ซัวเรซ และแดเนียล สเตอร์ริดจ์ 2 นักเตะที่ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำกว่า 50 ประตูในฤดูกาลที่ผ่านมา

บาโลเตลลี่ แม้จะ “ทดแทน” แบบปอนด์ ต่อปอนด์ไม่ได้ ทว่าก็สมควรทำได้ดีกว่านี้

เฉพาะอย่างยิ่ง “ความพยายาม” และกระตือรือร้น

เหนือสิ่งอื่นใดในแง่ความ “เป็นทีม” ของสโมสรลิเวอร์พูล ก็คือ ฟุตบอลยังไม่แพ้ หากยิงไม่ได้ และไม่เสียประตู

เจอชุดขาวกลางสัปดาห์ แค่เฮงอย่างเดียวคงไม่พอ

ทว่า ตอนนี้ ลิเวอร์พูลดูเหมือนจะเสียประตูได้ทุกครั้งที่เสียลูกตั้งเตะรอบกรอบเขตโทษ หรือลูกคอร์เนอร์

ขนาดเจอ คิวพีอาร์ ยัง “แกว่ง” ซะขนาดนี้ หรือเกมก่อนก็เกือบไม่รอดกับ เวสต์บรอมฯ ที่ชนะ 2-1

ดังนั้นในแมตช์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ต้องเปิดบ้าน แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ เรอัล มาดริด ที่กำลังเข้าฟอร์ม และยิงได้ทุกตัว แถมการันตี “สกอร์สูง” ตลอดในช่วงหลัง

จึงคิดเป็นอื่นไม่ได้เลยว่า ร็อดเจอร์ส จะงัดตำราไหนมาต่อกรกับ คาร์โล อันเชล็อตติ และพลพรรคราชันชุดขาว

พูดตามตรงว่า น่า “เป็นห่วง” มาก เพราะไม่ใช่ว่า “กลัวแพ้” ธรรมดา แต่ผมกลัวจะ “แพ้เยอะ” ครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook