ดินไหวเนปาลตายพุ่ง4,310-ไทยส่ง C130นำชุดแรกช่วย

ดินไหวเนปาลตายพุ่ง4,310-ไทยส่ง C130นำชุดแรกช่วย

ดินไหวเนปาลตายพุ่ง4,310-ไทยส่ง C130นำชุดแรกช่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเนปาล 4,310 คน เจ็บกว่า 8,000 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัย คาด อาจมีมากกว่า 1 หมื่นราย ขณะที่ กองทัพไทยส่ง C130 พร้อมเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือแผ่นดินไหวเนปาลวันนี้

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กระทรวงมหาดไทย เนปาล ได้เปิดเผย ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว ครั้งหายนะ 7.9 แมกนิจูด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 4,138 รายแล้ว และผู้ได้รับบาดเจ็บ มากกว่า 7,500 ราย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจะทะลุหมื่นราย เนื่องจากยังมีผู้ติดใต้ซากตึกอาคารและภูเขาที่ถล่มทับเป็นจำนวนมาก และยังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือ และกู้ซากได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จากนานาชาติได้ทยอยเข้ามาช่วยเหลือในการกู้ซากปรักหักพังแล้วก็ตาม แต่ก็ต้องเผชิญปัญหา ทั้งอาฟเตอร์ช็อก ขนาดตั้งแต่ 3-5 ตามมาตราริกเตอร์ เขย่าหลายครั้ง สภาพอากาศที่หนาวเย็นและบางจุดก็มีฝนตกลงมาส่งผลกระทบต่อเส้นทาง ในการเข้าไปกู้ภัยในแต่ละจุด

โดย นายจาดริช จันทรา โพกาเรล เจ้าหน้าที่เนปาล เผยว่า ทางการเนปาล ได้สั่งให้กองทัพเนปาลกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ เข้าไปช่วยในงานกู้ภัยในแต่ละจุด แต่ทางรัฐบาลมีเฮลิคอปเตอร์ 6 ลำ และ 20 ลำของหน่วยงานเอกชน ในการช่วยภารกิจครั้งนี้ ซึ่งทางเนปาลต้องการความช่วยเหลือจากต่างประเทศอย่างมากในตอนนี้และต้องการทางด้านสุขาภิบาล น้ำดื่มสะอาดอย่างมาก เนื่องจากอยู่ภาวะขาดแคลนอย่างหนัก



UN ส่งช่วยเหลือครั้งใหญ่ไปเนปาล - WHO ส่งอุปกรณ์แพทย์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โฆษกโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ WFP เตรียมส่งความช่วยเหลือฉุกเฉินครั้งใหญ่ ไปยังเนปาล และหลายประเทศในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงขนาด 7.9 แมกนิจูด โดยผู้เชี่ยวชาญชุดแรกของ WFP เดินทางถึงกรุงกาฐมาณฑุของเนปาล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อประเมินความต้องการความช่วยเหลือและได้ประมาณการว่า ที่พักและเวชภัณฑ์มีความจำเป็นเป็นอันดับแรก ๆ ที่ต้องส่งความช่วยเหลือ

ด้าน องค์การอนามัยโลก เผยว่า ได้จัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นสำหรับคนกว่า 40,000 คน ที่สามารถใช้ได้เป็นเวลา 3 เดือน แต่อาหารกำลังจะหมดไปอย่างรวดเร็วและทางหน่วยงานของสหประชาชาติกำลังเคลื่อนย้ายคลังอาหารไปยังภูมิภาคดังกล่าว เจ้าหน้าที่ WFP กำลังนำอาหารสำเร็จรูปที่ไม่ต้องปรุง ที่จัดเตรียมไว้ที่กรุงดูไบ ประเทศยูเออี ขึ้นเครื่องและคาดว่าเครื่องบินจะเดินทางถึงเนปาลในวันอังคารนี้ โดยจะนำไปแจกจ่ายด้วยรถบรรทุกเท่าที่เส้นทางจะเอื้ออำนวย แต่เนื่องจากถนนหนทางได้รับความเสียหายหนัก อาจจะต้องใช้เครื่องบินในการแจกจ่ายอาหาร


ไทยส่งบินC130นำชุดช่วยเหลือเนปาล

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ว่า นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือแล้ว โดยล่าสุดได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ เหล่าทัพ กระทรวงสาธารณสุข และภาคเอกชน เพื่อให้ความช่วยเหลือในนามของรัฐบาลไทย ซึ่งในส่วนของกองทัพอากาศ ได้มีเตรียมเครื่องบิน C130 เพื่อนำเจ้าหน้าที่ชุดแรกไปให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมถึงเจ้าหน้าที่ชุดผลิตน้ำดื่มจากกรมการทหารช่าง ซึ่งจะออกเดินทางในวันนี้ เวลา 08.00 น. และในส่วนของภาคประชาชนนั้น รัฐบาลได้ประสานกับทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 จัดรายการพิเศษ เพื่อระดมน้ำใจจากประชาชนชาวไทยเมื่อวานนี้ผ่านบัญชีชื่อ "หัวใจไทยส่งไปเนปาล" เพื่อเป็นการแสดงออกถึงน้ำใจในนามของประเทศไทย และรัฐบาลไทย 

นอกจากนี้ พ.อ.วินธัย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีวางระเบิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุย ว่า ขณะนี้ยังคงอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งต้องใช้เวลา ส่วนสถานการณ์ด้านความมั่นคงในขณะนี้ ยังไม่เกินกว่าในระดับที่มีการประเมินไว้ โดยเจ้าหน้าที่ยังมีความพร้อมในการดูแลและประชาชนได้มีการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของด้านการข่าวนั้น ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่บ้าง แต่ยังอยู่ในขีดความสามารถและการประเมินของเจ้าหน้าที่


กู้ภัย ตปท.ทยอยเนปาล-คนไทยติดค้างสนามบินกว่า 40

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทีมค้นหาและกู้ภัยของเนปาลเร่งทำงานอย่างหนัก เพื่อค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทีมค้นหาและกู้ภัยของฝรั่งเศส 11 คน พร้อมกับอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน เดินทางไปถึงกรุงกาฐมาณฑุแล้ว โดยจะเข้าไปสมทบกับทีมค้นหาและกู้ภัยนานาชาติ เพื่อเร่งช่วยเหลือชาวเนปาล

ด้าน เกาหลีใต้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดแรก โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีใต้ กล่าวว่า ในเจ้าหน้าที่ชุดแรก 5-10 คน จะส่งไปยังเนปาลเพื่อช่วยปฏิบัติการด้านการค้นหา ส่วนชุดที่สอง ประมาณ 30 คน เป็นเจ้าหน้าที่แพทย์จะถูกส่งไปในวันที่ 1 พ.ค.นี้ อินโดนีเซียส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ค้นหา พร้อมช่วยเหลือเงินประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกับนอร์เวย์และแอลจีเรีย

ขณะที่มีทีมกู้ภัยจำนวนมากพยายามเดินทางไปที่ประเทศเนปาล แต่เนื่องจากสนามบินตรีภูวันมีพื้นที่จำกัด อีกทั้งยังปิดทำการเป็นระยะ ๆ เนื่องจากเกิดอาฟเตอร์ช็อกทำให้เครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้ มีรายงานว่าเครื่องบินหลายลำต้องแวะพักที่ประเทศอินเดียก่อน เพื่อรอคิวลงจอดที่เนปาล โดยกำลังหลักในการค้นหาและกู้ภัยในขณะนี้ ขณะที่โรงพยาบาลยังเต็มไปด้วยคนไข้ที่ได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหว ทำให้บางส่วนต้องนอนอยู่ด้านนอก เนื่องจากเตียงไม่เพียงพอ ส่วนแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ต้องทำงานกันตลอดเวลา

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 40 คน ได้เปิดเผยต่อสื่อไทยเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ติดค้างอยู่ที่สนามบินไม่สามารถเดินทางกลับไทยได้ เนื่องจากทางสนามบิน

ประกาศยกเลิกเที่ยวบินหลายครั้ง เพราะเครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้ เพราะการจราจรรันเวย์แออัดอย่างหนัก เพราะเครื่องบินกู้ภัยนานาชาติลงจอดอย่างต่อเนื่อง โดย นักท่องเที่ยวชาวไทยร้องขออยากกลับไทย โดยอาศัยเครื่องบิน C130 ของทัพอากาศไทย เพราะไม่มั่นใจว่า เครื่องบินโดยสารจะสามารถลงจอดและออกจากเนปาลได้ตอนไหน และตอนนี้เกิดปัญหาอย่างมากในเนปาล ทั้งการขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ที่พัก การติดต่อสื่อสาร ระบบสาธารณูปโภคที่ยังไม่ทันสมัยอย่างมาก


ปชช.หลายพัน อพยพออกจากเนปาล

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประชาชนหลายพันคนพากันอพยพออกจากกรุงกาฐมาณฑุ หลังเกิดโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 7.9 รุนแรงสุดในรอบ 80 ปีของเนปาล รวมทั้งกระแสข่าวว่าจะเกิดโรคระบาดร้ายแรงตามมา โดยผู้คนที่พากันอพยพออกจากเมือง ส่วนใหญ่กล่าวว่ารู้สึกไม่ปลอดภัยและต้องการเดินทางกลับบ้านเกิด

ส่วน ทีมกู้ภัยยังคงทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตตามซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือน ท่ามกลางความหวังที่ริบหรี่ลงทุกขณะ เนื่องจากผ่านพ้นแผ่นดินไหวมาแล้ว 3 วัน ขณะที่รัฐบาลเนปาลต้องเผชิญกระแสความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังผู้ประสบภัยร้องเรียนว่ายังไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ

ขณะที่ นักปีนเขาชาวต่างชาติและคนนำทางชาวเนปาลที่ยังติดค้างอยู่บนยอดเขาเอเวอเรสต์ที่เกิดหิมะถล่มจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้รับการช่วยเหลือออกมาเมื่อวานนี้ หลังสภาพอากาศปลอดโปร่ง ทำให้ทีมกู้ภัยสามารถนำเฮลิปเตอร์เข้าไปในพื้นที่ได้

ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยเนปาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อกับพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดและคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจสูงถึง 5,000 คน ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการขณะนี้อยู่ที่ 3,954 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 7,500 คน ขณะที่กองทุนเด็ก เปิดเผยว่า มีเด็กในเนปาลเกือบ 1,000,000 คน ต้องการความช่วยเร่งด่วน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่ออันตราย

สถานการณ์เลวร้ายในพื้นที่ภัยพิบัติแผ่นดินไหวจากการขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม และอันตรายจากโรคระบาด ทำให้รัฐบาลเนปาลต้องร้องความช่วยเหลือจากนานาชาติโดยด่วน และล่าสุดความช่วยเหลือจากนานาชาติ รวมทั้งจากฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน และจีน เริ่มทยอยเข้ามาในกรุงกาฐมาณฑุแล้ว


บินไทย แจ้งความคืบหน้าเที่ยวบิน TG319

ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งความคืบหน้าเพิ่มเติมกรณีที่เที่ยวบิน TG319 เส้นทาง กรุงเทพฯ - กาฐมาณฑุ ไม่สามารถลงจอดที่สนามบินตรีภูวัน เมืองกาฐมาณฑุ ได้ เนื่องจากปริมาณจราจรที่สนามบินหนาแน่น และต้องทำการบินกลับมากรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 01.10 น. ของวันที่ 28 เมษายน 2558 ซึ่งล่าสุด การบินไทยจะนำเที่ยวบินดังกล่าวออกเดินทางไปกาฐมาณฑุอีกครั้งในเวลาประมาณ 09.15 น. วันนี้ โดยเปลี่ยนรหัสเที่ยวบินเป็น TG3199

อย่างไรก็ตาม สำหรับเที่ยวบินกรุงเทพฯ - กาฐมาณฑุ ของวันนี้ คือ TG 319 จะออกเดินทางตามกำหนดเดิม คือ เวลา 10.15 น.


UNจัดงบฉุกเฉินช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ว่า ยูเอ็นได้ทำเรื่องการอนุมัติงบประมาณฉุกเฉิน จำนวน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวรุนแรงในเนปาล และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4,000 กว่า ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 7,500 คน 



ซึ่งทั้งนี้ งบประมาณฉุกเฉินจำนวนนี้จะสามารถสนับสนุนการสร้างที่พักอาศัยชั่วคราว สิ่งของอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น รวมถึงการก่อสร้างเส้นทางชั่วคราวเพื่อลำเลียงความช่วยเหลือ โดยการปันส่วนอาหารและน้ำดื่มน่าจะเริ่มขึ้นได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


ขณะเดียวกัน เบื้องต้นยูเอ็นประเมินจำนวนประชาชนซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้เอาไว้ที่ราว 8 ล้านคน ในจำนวนนี้ราว 1.4 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือด้านอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณเมืองโพคารา ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ซึ่งมีจำนวนมากราว 750,000 คน 


ส่วนรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มงบประมาณช่วยเหลือชาวเนปาลเป็น 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรัฐบาลเนปาลเผยหน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์จากราว 10 ประเทศเดินทางลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนแล้ว


รอง ผบ.สส.ส่งชุดปฏิบัติช่วยแผ่นดินไหวเนปาล

วันนี้ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 บน.6 พล.ร.อ.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เป็นประธานในพิธีส่งชุดปฏิบัติชุดแรก 67 คน เดินทางลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ณ กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล

ทั้งนี้ พล.ร.อ.ทวีวุฒิ เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติให้ความช่วยเหลือที่ลงพื้นที่ในครั้งนี้ประกอบด้วย ชุดค้นหา ชุดช่วยชีวิต หน่วยแพทย์ และชุดสื่อสาร จากกองทัพบกและกองทัพไทยที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี จำนวน 67 คน พร้อมด้วยสิ่งของที่จำเป็น อาทิ อาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ซึ่งผลัดแรกจะปฏิบัติทั้งหมด 7 วัน ตั้งแต่วันนี้ - 4 พ.ค. และทันทีที่ถึงพื้นที่ประสบภัยชุดปฏิบัติการจะเริ่มทำการช่วยเหลือทันที และจะมีการรายงานสถานกาณร์กลับมาที่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสรุปผลให้กับ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และนายกรัฐมนตรี รับทราบและสั่งการต่อไป 


ยอดดับดินไหวเนปาล4,310เจ็บกว่า8,000คน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในเนปาลในวันเสาร์ที่ผ่านมา ล่าสุด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมจากทั้งในเนปาล, อินเดีย และจีน อย่างน้อย 4,310 คน ส่วนของผู้บาดเจ็บนั้น เจ้าหน้าที่เนปาลระบุว่า มีจำนวนมากกว่า 8,000 คน

ด้าน รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า ประชาชนหลายพันคนที่ไม่สามารถทนรอความช่วยเหลือได้ เริ่มเดินทางออกจากกรุงกาฐมาณฑุไปพื้นที่ราบโดยรอบ ขณะที่พบพนักงานประจำท่าอากาศยานนานาชาติไตรภูวันที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงดังกล่าว หลายคนไม่ได้เข้ามาทำงาน ส่งผลให้เกิดความขัดข้อง ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในเนปาล เผยว่า ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์การจัดส่งความช่วยเหลือ และจัดการให้ผู้โดยสารออกจากประเทศได้

เจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่ายอดตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะในเขตชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้กับเชิงเขา ซึ่งคาดว่าจะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook