ครูพาลูกศิษย์ป.4 แจ้งความ ถูกพ่อเลี้ยงชกหน้า บีบอัณฑะ

ครูพาลูกศิษย์ป.4 แจ้งความ ถูกพ่อเลี้ยงชกหน้า บีบอัณฑะ

ครูพาลูกศิษย์ป.4 แจ้งความ ถูกพ่อเลี้ยงชกหน้า บีบอัณฑะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางรัชญา (ขอสงวนนามสกุล)ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้พา ด.ช.โฟม (นามสมมติ) ซึ่งมีสภาพใบหน้าคล้ายกับถูกทำร้ายจนตาเขียวช้ำ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ ให้ดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยง หลัง ด.ช.โฟม ถูกทำร้ายด้วยการชกต่อยที่ใบหน้าและถูกบีบลูกอัณฑะ ที่ห้องเช่าของผู้ปกครอง

ครูประจำชั้น เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าขณะที่ตนเดินทางมาสอนที่โรงเรียน ด.ช.โฟมได้วิ่งมาหาตน และขอความช่วยเหลือ พร้อมกับบอกตนว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถูกพ่อเลี้ยงซึ่งเป็นแฟนใหม่ของแม่ ชกที่ใบหน้าและใช้มือบีบลูกอัณฑะ เพราะ ด.ช.โฟม เข้าไปห้ามพ่อเลี้ยงไม่ให้ทำร้ายแม่ของเด็ก เนื่องจากไม่พอใจที่แม่เปิดประตูบ้านให้ช้า และทำกับข้าวให้ไม่ทัน

นางรัชญา เล่าต่ออีกว่า แม่ของ ด.ช.โฟม มีลูกทั้งหมด 7 คน ด.ช.โฟมเป็นคนสุดท้อง หาเลี้ยงลูกด้วยการร้อยพวงมาลัยขายตามสี่แยก และมีแฟนใหม่เป็นวัยรุ่น ซึ่งไม่มีอาชีพอะไร รายได้จึงไม่พอเลี้ยงจุนเจือลูกทั้ง 7 คน บ่อยครั้งที่ ด.ช.โฟม ต้องมาขอค่ารถตนเพื่อเดินทางมาเรียนหนังสือ รวมถึงค่าอาหารและเสื้อผ้า โดยครูที่โรงเรียนคอยช่วยเหลือ ด.ช.โฟม มาโดยตลอด ที่ตนต้องพาเด็กมาแจ้งความ เพราะทนเห็นเด็กถูกทารุณไม่ไหว

ทั้งนี้ ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่ บ้านพักเด็กชายโฟมซึ่งอยู่เขตพื้นที่ สภ.บางปู เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อไปถึงพบว่าพ่อเลี้ยงได้หลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว พบเพียง นางเพ็ญ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นแม่ของเด็ก

โดยแม่ของเด็กให้การว่า สามี คือ นายสมปอง จระเข้สามพัน อายุ 36 ปี ก่อนเกิดเหตุ สามีได้ดื่มเหล้าจนเมาและมีปากเสียงกับตนถึงขั้นลงไม้ลงมือ จากนั้นลูกชายได้เข้ามาห้ามปราม และถูกลูกหลงจากมือนายสมปองสะบัดไปโดนใบหน้า ตนจึงได้อุ้มลูกหนี เนื่องจากเกรงว่า ลูกชายจะถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย กระทั่งได้เกิดการยื้อแย่งกันขึ้น ระหว่างนั้นนายสมปองได้ใช้มือดึงกางเกงลูกชายไว้ ซึ่งอาจจะไปถูกอวัยวะเพศโดยไม่ได้ตั้งใจ

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวนายสมปอง มาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ขอบคุณที่มาจาก ข่าวสดออนไลน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook