ประยุทธ์ลุยพัฒนาปท.ปราบโกงกำชับเฝ้าระวังอีโบลา

ประยุทธ์ลุยพัฒนาปท.ปราบโกงกำชับเฝ้าระวังอีโบลา

ประยุทธ์ลุยพัฒนาปท.ปราบโกงกำชับเฝ้าระวังอีโบลา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวขอบคุณทุกฝ่าย ไว้ใจนั่งนายกรัฐมนตรี ขอทำหน้าให้ดีเพื่อชาติ เร่งแก้ทุจริต คอร์รัปชัน ลุยพัฒนาประเทศ เร่งแก้ กม. คงกฎอัยการศึก เพื่อความสงบสุข กำชับเฝ้าระวังอีโบลา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการคืนความสุขประชาชน ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ภายหลังรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ว่า ขอบคุณทุกฝ่าย รวมถึงประชาชน ที่ไว้ใจให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยจะรับผิดชอบต่อการทำหน้าที่ เพื่อประโยชน์สุขของคนในชาติต่อไป ทั้งนี้ การขับเคลื่อนงานต้องทำอย่างโปร่งใส ยุติธรรม มีธรรมาภิบาล ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งปัญหาที่ต้องแก้ไขเร่งด่วนที่สุดใน 1 ปี และ คสช. ให้ความสำคัญเป็นเรื่องแรก คือ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน มีการลงโทษ และพิจารณาเพิ่มโทษอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ ประชาชน ถือเป็นส่วนสำคัญที่สุด ที่จะทำให้การบริหารราชการแผ่นดิน เดินหน้าต่อไปได้ และขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้เวลา คสช. ทำงาน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน คสช. อยู่ในระยะที่ 2 ซึ่งการบริหารประเทศทุก ๆ ด้าน ในบทบาทของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ต้องควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนงานเร่งด่วนเฉพาะหน้า

ส่วนกรณีกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม นั้น มีการแก้ไขกฎหมายเร่งด่วน ค้างเก่า ให้มีความทันสมัย สะดวก และถูกต้อง ซึ่ง คสช. ส่งร่างกฎหมายไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) บ้างแล้ว โดยผ่านการพิจารณาขั้นต้นและที่ประชุม คสช. ในฐานะ ครม. มาก่อน ทั้งนี้ ในส่วนของกฎอัยการศึก คงไว้เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง

นอกจากนี้ คสช.ยังอนุมัติงบเร่งด่วนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อดูแลป้องกันและรองรับเรื่องอีโบลา โดยสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังเข้มงวดทุกช่องทาง และให้ กระทรวงสาธารณสุข ส่งรายละเอียดทุกหน่วยงานรับทราบ

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า เศรษฐกิจไทย ยังมีปัญหา ต้องเร่งแก้ไข พัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันก่อนเข้า AEC โดยมองว่า เศรษฐกิจไทยจะต้องใช้เวลาอีกกว่า 12 ปี เพื่อจะก้าวผ่านกับดักประเทศรายได้ปานกลางเข้าสู่ประเทศรายได้สูง ในขณะที่เพื่อนบ้านบางประเทศจะเข้าสู่ประเทศรายได้สูงด้วยระยะเวลาอีก
เพียง 6 ปีเท่านั้น พร้อมมองว่า การปรับโครงสร้างภาษีมีความท้าทาย ขณะเดียวกันกฎอัยการศึกยังมีความจำเป็นเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง 

พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวถึง เรื่องการปรับโครงสร้างของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คสช. ได้มีการเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงการดำเนินการและแผนธุรกิจของบริษัทการบินไทย ถึงแม้ว่าการบินไทย จะประสบปัญหาขาดทุน แต่ยังมีพื้นฐานเดิมที่ดีอยู่ ซึ่งหากได้รับการปรับโครงสร้างและกลยุทธ์ธุรกิจอย่างเหมาะสม จะมีศักยภาพสูงในการดำเนินงานภายในระยะเวลาอันใกล้ และต่อไปในอนาคต ที่ประชุมมีความมั่นใจว่าฐานะทางการเงินของบริษัทการบินไทย ยังไม่เลวร้ายเหมือนที่ปรากฏเป็นข่าว เพราะยังมีระดับเงินสดอยู่ในระดับที่เหมาะสม และมีส่วนของผู้ถือหุ้นเกินกว่า 46,000 ล้านบาท อีกทั้ง จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการได้ปรับเพิ่มขึ้นตามลำดับ

นอกจากนี้ สถาบันการเงินต่าง ๆ ก็ให้ความสนใจที่จะให้การสนับสนุนในด้านสภาพคล่อง และในกรณีจำเป็นหากเกิดปัญหาสภาพคล่อง ซึ่ง กระทรวงการคลัง ก็พร้อมที่จะดูแลในเรื่องนี้

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวฝากถึงบุคคลที่จะมาเป็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ว่า ขอให้ช่วยกันวางรากฐานบ้านเมืองในอนาคต ในทุกประเด็น เพื่อการพัฒนาประเทศชาติ สร้างความเข้มแข็ง ลดความเหลื่อมล้ำ โดยยืนยันว่า จะบริหารราชการแผ่นดินอย่างโปร่งใสและเต็มที่

นอกจากนี้ ในส่วนบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีนั้น อย่ายึดติดตัวบุคคล ให้มองที่ชาติเป็นหลัก และขอทุกฝ่ายอย่าชี้นำ พูดจารุนแรง ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะทุกคนคือคนไทย


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook